วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

ความสมดุลของระบบนิเวศ

          คุณสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งของระบบนิเวศ คือ มีกลไกในการปรับสภาวะตัวเอง (selfregulation) โดยมีรากฐานมาจากความสามารถของ สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด ซึ่งเป็นองค์ประกอบของระบบนิเวศนั้น ๆ คือ ผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลายในการทำให้ เกิดการหมุนเวียนของธาตุอาหารผ่านสิ่งมีชีวิต ถ้าระบบนิเวศนั้นได้รับพลังงานอย่างพอเพียง และไม่มีอุปสรรคขัดขวางวัฏจักรของธาตุอาหาร แล้ว ก็จะทำให้เกิดภาวะสมดุล equilibrium ขึ้นมาในระบบนิเวศนั้น ๆ โดยมีองค์ประกอบและความสัมพันธ์ ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดทำให้แร่ธาตุ และสสารกับสิ่งแวดล้อมนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง มาก ซึ่งทำให้ระบบนิเวศนั้นมีความคงตัว ทั้งนี้เพราะการผลิตอาหารสมดุลกับการบริโภคภาย ในระบบนิเวศนั้นการปรับสภาวะตัวเองนี้ ทำให้การผลิตอาหารและการเพิ่มจำนวนของ สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในระบบนั้นมีความพอดีกัน กล่าวคือจำนวนประชากรชนิดใด ๆ ในระบบนิเวศจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนอย่างไม่มีขอบเขตได้

ธรรมชาติได้ให้สิ่งที่สวยงาม ร่มรื่น นอกเหนือจากปัจจัย ที่มนุษย์ได้รับ
ถ้าในระบบนิเวศสิ่งมีชีวิตบางชนิดถูกทำลายไปจะทำให้ความสมดุลของระบบนิเวศลดลง เช่น บริเวณทุ่งหิมะและขั้วโลกเป็นระบบนิเวศที่ง่ายและธรรมดาไม่ซับซ้อน เพราะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ไม่กี่ชนิด พืชก็ได้แก่ ตะไคร่น้ำ ไลเคน หญ้าชนิดต่าง ๆ เพียงไม่กี่ชนิดและต้นหลิว พืชเหล่านี้เป็นอาหารของกวาง ซึ่งมีอยู่ ชนิด คือ กวางคาริเบียนกับกวางเรนเดีย กวางเป็นอาหารของสุนัขป่าและคน นอกจากนี้ ก็มีหนูนาและไก่ป่า ซึ่งเป็นอาหารของสุนัขจิ้งจอกและนกเค้าแมว เพราะฉะนั้นในบริเวณหิมะนี้ ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงจำนวนของสิ่งมีชีวิตในระดับหนึ่ง จะมีผลรุนแรงต่อสิ่งมีชีวิต ในระดับอื่น ๆ ด้วยเพราะมันไม่มีโอกาสเลือกอาหารได้มาก นักสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนี้จึงเปลี่ยนแปลงเร็ว จนบางชนิดสูญพันธุ์ ดังนั้นระบบนิเวศที่ไม่ซับซ้อนจึงเสียดุลได้ง่ายมากเหมือนกับการปลูกพืชชนิดเดียว (monocropping) เช่น การเกษตรสมัยปัจจุบันเวลาเกิดโรคระบาดจะทำให้เสียหายอย่างมากและรวดเร็ว
แม่น้ำที่มีวัชพืชน้ำมาก จนมีสัดส่วนไม่เหมาะสมกับการรักษาความสมดุลของระบบธรรมชาติ 
และกีดขวางการจราจรทางน้ำ

องค์ประกอบของระบบนิเวศ

ระบบนิเวศทุก ๆ ระบบจะมีโครงสร้างที่กำหนดโดยชนิดของสิ่งมีชีวิตเฉพาะอย่าง ที่อยู่ในระบบนั้น ๆ โครงสร้างประกอบด้วยจำนวนและชนิดของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เหล่านี้ และการกระจายตัวของมันถึงแม้ว่าระบบนิเวศบนโลกจะมีความหลากหลายแต่มีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกันคือ ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ ส่วนคือ

1.       ส่วนประกอบที่ไม่มีชีวิต (Abiotic component) แบ่งได้เป็น ประเภท คือ
1.1 อนินทรียสาร เช่น คาร์บอนไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ น้ำและออกซิเจน เป็นต้น
1.2 อินทรียสาร เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และฮิวมัส เป็นต้น
1.3 สภาพแวดล้อมทางกายภาพ เช่น แสง อุณหภูมิ ความเป็นกรดเป็นด่าง ความ เค็มและความชื้น เป็นต้น
2.       ส่วนประกอบที่มีชีวิต (Biotic component) แบ่งออกได้เป็น
2.1 ผู้ผลิต (producer) คือ พวกที่สามารถนำเอาพลังงานจากแสงอาทิตย์มาสังเคราะห์ อาหารขึ้นได้เอง จากแร่ธาตุและสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ได้แก่ พืชสีเขียว แพลงค์ตอนพืช และแบคทีเรียบางชนิด พวกผู้ผลิตนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนเริ่มต้นและเชื่อมต่อระหว่างส่วนประกอบที่ไม่มีชีวิตกับส่วนที่มีชีวิตอื่น ๆ ในระบบนิเวศ
2.2 ผู้บริโภค (consumer) คือ พวกที่ได้รับอาหารจากการกินสิ่งที่มีชีวิตอื่น ๆ อีกทอด หนึ่งได้แก่พวกสัตว์ต่าง ๆ แบ่งได้เป็น
ผู้บริโภคปฐมภูมิ (primary consumer) เป็นสิ่งมีชีวิตที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น กระต่าย วัว ควาย และปลาที่กินพืชเล็ก ๆ ฯลฯ
ผู้บริโภคทุติยภูมิ (secondary consumer) เป็นสัตว์ที่ได้รับอาหารจากการกินเนื้อสัตว์ที่ กินพืชเป็นอาหาร เช่น เสือ สุนัขจิ้งจอก ปลากินเนื้อ ฯลฯ
ผู้บริโภคตติยภูมิ (tertiauy consumer) เป็นพวกที่กินทั้งสัตว์กินพืช และสัตว์กินสัตว์ นอกจากนี้ยังได้แก่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระดับขั้นการกินสูงสุดซึ่งหมายถึงสัตว์ที่ไม่ถูกกินโดยสัตว์อื่น ๆ ต่อไป เป็นสัตว์ที่อยู่ในอันดับสุดท้ายของการถูกกินเป็นอาหาร เช่น มนุษย์
2.3 ผู้ย่อยสลาย (decomposer) เป็นพวกไม่สามารถปรุงอาหารได้ แต่จะกินอาหารโดย การผลิตเอนไซน์ออกมาย่อยสลายแร่ธาตุต่าง ๆ ในส่วนประกอบของสิ่งที่มีชีวิตให้เป็นสารโมเลกุลเล็กแล้วจึงดูดซึมไปใช้เป็นสารอาหารบางส่วน ส่วนที่เหลือปลดปล่อยออกไปสู่ระบบนิเวศ ซึ่งผู้ผลิตจะสามารถเอาไปใช้ต่อไป จึงนับว่าผู้ย่อยสลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สารอาหารสามารถหมุนเวียนเป็นวัฏจักรได้

ความหมายของระบบนิเวศ

ระบบนิเวศ (Ecosystem) เป็นโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ กับบริเวณแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ดำรงชีวิตอยู่ ระบบนิเวศนั้นเป็นแนวคิด (concept) ที่นักนิเวศวิทยาได้นำมาใช้ในการมองโลกส่วนย่อย ๆ ของโลกเพื่อที่จะได้เข้าใจความเป็นไปบนโลกนี้ได้ดีขึ้น 

ระบบนิเวศหนึ่ง ๆ นั้น ประกอบด้วยบริเวณที่สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ และกลุ่มประชากรที่มีชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าว พืชและโดยเฉพาะสัตว์ต่าง ๆ ก็ต้องการบริเวณที่อยู่อาศัยที่มีขนาดอย่างน้อยที่สุดที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อว่าการมีชีวิตอยู่รอดตลอดไป ยกตัวอย่างเช่น สระน้ำแห่งหนึ่งเราจะพบสัตว์และพืชนานาชนิด ซึ่งสามารถปรับตัวให้เข้ากับบริเวณน้ำที่มันอาศัยอยู่โดยมีจำนวนแตกต่างกันไปตามแต่ชนิด สระน้ำนั้นดูเหมือนว่าจะแยกจากบริเวณแวดล้อมอื่น ๆ ด้วยขอบสระ แต่ตามความเป็นจริงแล้วปริมาณน้ำในสระสามารถเพิ่มขึ้นได้ โดยน้ำฝนที่ตกลงมา ในขณะเดียวกันกับที่ระดับผิวน้ำก็จะระเหยไปอยู่ตลอดเวลา น้ำที่ไหลเข้ามาเพิ่มก็จะพัดพาเอาแร่ธาตุและชิ้นส่วนต่าง ๆ ของพืชที่เน่าเปื่อยเข้ามาในสระตัวอ่อนของยุงและลูกกบตัวเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในสระน้ำ แต่จะไปเติบโตบนบก นกและแมลงซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกสระก็จะมาหาอาหารในสระน้ำ การไหลเข้าของสารและการสูญเสียสารเช่นนี้จึงทำให้สระน้ำเป็นระบบเปิดระบบหนึ่ง
หากมีแร่ธาตุไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้การเจริญเติบโตของพืชเพิ่มมากขึ้น เช่น ไฟโตแพลงตันหรือพืชน้ำที่อยู่ก้นสระ ปริมาณสัตว์จึงเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ แต่เมื่อปริมาณสัตว์เพิ่ม ปริมาณของพืชที่เป็นอาหารก็จะค่อย ๆ น้อยลง ทำให้ปริมาณสัตว์ค่อย ๆ ลดตามลงไปด้วยเนื่องจากอาหารมีไม่พอ ดังนั้นสระน้ำจึงมีความสามารถในการที่จะควบคุมตัวของมัน (Self-regulation) เองได้ กล่าวคือ จำนวนและชนิดของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อยู่ในสระน้ำจะมีจำนวนคงที่ ซึ่งเราเรียกว่ามีความสมดุล
สระน้ำนี้ จึงเป็นหน่วยหนึ่งของธรรมชาติที่เรียกว่า "ระบบนิเวศ" (Ecosystem) ซึ่งกล่าวได้ว่าระบบนิเวศหนึ่ง ๆ นั้น เป็นโครงสร้างที่เปิดและมีความสามารถในการควบคุมตัวของมันเอง ประกอบไปด้วยประชากรต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ไร้ชีวิต ระบบนิเวศเป็นระบบเปิดที่มีความสัมพันธ์กับบริเวณแวดล้อมโดยมีการแลกเปลี่ยนสาร และพลังงาน ดังนั้นจึงมีความสัมพันธ์กับระบบนิเวศอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ตัวชุมชนที่มีชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ใช้ชีวิตนั้นรวมกันเป็นระบบนิเวศ

ความรู้เสริมเกี่ยวกับป่า และสิ่งแวดล้อม

             สิ่งแวดล้อม คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวมนุษย์ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต รวมทั้งที่เป็นรูปธรรม (สามารถจับต้องและมองเห็นได้และนามธรรม (ตัวอย่างเช่นวัฒนธรรมแบบแผน ประเพณี ความเชื่อมีอิทธิพลเกี่ยวโยงถึงกัน เป็นปัจจัยในการเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ผลกระทบจากปัจจัยหนึ่งจะมีส่วนเสริมสร้างหรือทำลายอีกส่วนหนึ่ง อย่างหลีกเลี่ยงมิได้ สิ่งแวดล้อมเป็นวงจรและวัฏจักรที่เกี่ยวข้องกันไปทั้งระบบ

ธรรมชาติและสัตว์ป่า

       แหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติและสัตว์ป่านับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของประเทศไทย เพราะเรามีแหล่งธรรมชาติที่งดงามหลากหลายประเภท ตั้งแต่ภูเขา ผืนป่า น้ำตก หาดทราย ชายทะเล หมู่เกาะ โถงถ้ำ ทะเลสาบ ทุ่งดอกไม้ น้ำพุร้อน ฯลฯ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่งธรรมชาตินั้นๆ
การมีแหล่งธรรมชาติหลายประเภทนับเป็นข้อได้เปรียบของเมืองไทย เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชื่นชมความงามของเมืองไทยได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเมื่อเลือกเดินทางในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็จะได้ชมความงามและเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติได้อย่างสนุก มีความสุข และปลอดภัย
ประเภทของแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติและสัตว์ป่า
หมู่เกาะ (Islands) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสดใสของผืนน้ำทะเล และความสดชื่นของผืนป่าบนเกาะ หลากหลายกันไปตามแต่สถานที่ โดยมีทั้งเกาะสงบงามและเกาะครึกครื้นคึกคัก
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ (Dam, แหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติและสัตว์ป่านับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของประเทศไทย เพราะเรามีแหล่งธรรมชาติที่งดงามหลากหลายประเภท ตั้งแต่ภูเขา ผืนป่า น้ำตก หาดทราย ชายทะเล หมู่เกาะ โถงถ้ำ ทะเลสาบ ทุ่งดอกไม้ น้ำพุร้อน ฯลฯ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่งธรรมชาตินั้นๆ
การมีแหล่งธรรมชาติหลายประเภทนับเป็นข้อได้เปรียบของเมืองไทย เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชื่นชมความงามของเมืองไทยได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเมื่อเลือกเดินทางในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็จะได้ชมความงามและเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติได้อย่างสนุก มีความสุข และปลอดภัย
ประเภทของแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติและสัตว์ป่า
หมู่เกาะ (Islands) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสดใสของผืนน้ำทะเล และความสดชื่นของผืนป่าบนเกาะ หลากหลายกันไปตามแต่สถานที่ โดยมีทั้งเกาะสงบงามและเกาะครึกครื้นคึกคัก
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ (Dam, Reservoir, Lake) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชื่นเย็นสบายกายสบายตา บนผืนน้ำกว้างใหญ่ที่สมบูรณ์ด้วยผืนป่าสองข้างทาง
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (National parks & Marine reserves) เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสรรพชีวิตที่น่าสนใจ อยู่ภายใต้การดูแลรักษาของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
แม่น้ำลำคลอง (River, Canal) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่แสดงถึงความเป็นดินแดนแห่งสายน้ำอันชื่นเย็นและอุดมด้วยสรรพชีวิต ซึ่งสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ทุ่งดอกไม้ (Flower field) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสของดอกไม้นานาพรรณ ซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผลิดอกสะพรั่งต่างกันไปตามฤดูกาล
น้ำพุร้อน (Hot Spring) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หลายแห่งมีห้องอาบน้ำร้อนให้คุณลงไปนอนแช่อย่างสบายตัวสบายใจ และมีบริการนวดผ่อนคลายในรูปแบบการนวดแผนไทย
ถ้ำ (Caves) เป็นแหล่งท่องเที่ยวใต้พิภพที่เต็มไปด้วยความท้าทายและน่าสนใจ ตั้งแต่ลักษณะทางธรณีวิทยา ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตที่หาดูได้ยากในโลกเหนือพื้นดิน
น้ำตก (Waterfalls) เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอีกประเภทที่นำมาซึ่งความชื่นเย็น น้ำตกบางแห่งสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่บางแห่งก็เที่ยวได้เฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น
ชายหาดและอ่าว (Beaches & Bay) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกใจนักท่องเที่ยวมากหน้า เพราะความสวยงามของชายหาดและอ่าวในเมืองไทยนั้น หลายแห่งขึ้นชื่อติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียวReservoir, Lake) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชื่นเย็นสบายกายสบายตา บนผืนน้ำกว้างใหญ่ที่สมบูรณ์ด้วยผืนป่าสองข้างทาง
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (National parks & Marine reserves) เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสรรพชีวิตที่น่าสนใจ อยู่ภายใต้การดูแลรักษาของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
แม่น้ำลำคลอง (River, Canal) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่แสดงถึงความเป็นดินแดนแห่งสายน้ำอันชื่นเย็นและอุดมด้วยสรรพชีวิต ซึ่งสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ทุ่งดอกไม้ (Flower field) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสของดอกไม้นานาพรรณ ซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผลิดอกสะพรั่งต่างกันไปตามฤดูกาล
น้ำพุร้อน (Hot Spring) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หลายแห่งมีห้องอาบน้ำร้อนให้คุณลงไปนอนแช่อย่างสบายตัวสบายใจ และมีบริการนวดผ่อนคลายในรูปแบบการนวดแผนไทย
ถ้ำ (Caves) เป็นแหล่งท่องเที่ยวใต้พิภพที่เต็มไปด้วยความท้าทายและน่าสนใจ ตั้งแต่ลักษณะทางธรณีวิทยา ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตที่หาดูได้ยากในโลกเหนือพื้นดิน
น้ำตก (Waterfalls) เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอีกประเภทที่นำมาซึ่งความชื่นเย็น น้ำตกบางแห่งสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่บางแห่งก็เที่ยวได้เฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น
ชายหาดและอ่าว (Beaches & Bay) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกใจนักท่องเที่ยวมากหน้า เพราะความสวยงามของชายหาดและอ่าวในเมืองไทยนั้น หลายแห่งขึ้นชื่อติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว